หากใครสนใจอ่านโพสใน blog ที่เกี่ยวข้องเส้นทางอาชีพด้าน ESG ดูได้ที่
https://shorturl.asia/T4Ypn
https://shorturl.asia/cj8nA
โดยโพสล่าสุดผมได้ความแตกต่างระหว่างบริษัทที่มี ESG Rating กับบริษัทที่ไม่มี Rating ว่าในอนาคตต่างกันอย่างไร
https://shorturl.asia/hyAcr
อันนี้ที่จริงแล้วเวลาผมได้ไปบรรยายเกี่ยวกับ ESG ชักชวนให้บริษัทเข้าร่วมโครงการ SET ESG เพราะ SET เองก็สร้างระบบการเข้าร่วมโครงการ ESG Rating ไว้เป็นอย่างดี มีขั้นตอนการคัดเลือกอย่างเป็นระบบประมาณนึงนะครับ (เปลี่ยนมาจาก THSI) ดูรายละเอียดได้ที่ตรงนี้ https://setsustainability.com/ESG-ratings
ความหนักใจของผู้สอนคือ เมื่อพูดถึงแง่ดี / โอกาสทางธุรกิจของบริษัทจดทะเบียนให้เข้าร่วมโครงการ ESG Rating มักพบกับคำถามท้าทายว่า “บริษัทที่ได้ AAA ทำไมราคาหุ้นไม่เห็นขึ้น หรือบางทีแย่กว่าบริษัทที่ไม่เข้าร่วมด้วยซ้ำ ตกลงแล้ว ESG มันดีหรือไม่ดี” (rating คิดยังไง คะแนนเท่าไหร่ดูได้จากภาพด้านล่าง)

โดยในเชิงวิชาการมันก็พอจะตอบได้แนวๆว่า ตอนนี้บ้านเราเพิ่งเริ่ม ESG ไม่นานเม็ดเงินมันไปอยู่ใน investment แบบ long term คงต้องใช้เวลาสักพักถึงจะเก็บดอกออกผลได้ (ตัวผมเองซื้อพวกกองทุนรวม ESG ก็ยังขึ้นตัวแดงเลย) อันนี้คือตอบแบบสายธรรมะนะครับ 55
กลับมาสู่เรื่อง SET ESG Rating ตามปกติแล้วบริษัทที่เข้าร่วมโครงการต้องผ่านการประเมินด้วยแบบทดสอบและต้องได้รับการประเมิน Rating ด้านบน ออกมาเป็น เกรด AAA, AA, A, BBB
ในมุมวิชาการมีหลายงานวิจัยได้หาความสัมพันธ์ระหว่าง Rating ดังกล่าวว่าหาก Rating สูงจะส่งผลต่อ Performance ในด้านต่าง ๆ ของบริษัท หรือมูลค่าของบริษัท ซึ่งหลายงานวิจัยก็ตอบไม่เหมือนกัน ขึ้นกับตลาดทุนในประเทศที่เลือก รวมทั้งวิธีการวิจัยที่เลือก ในบทบาทของนักวิชาการมันก็มีความ Bias ค่อนข้างสูง ในความคิดเห็นเชิงวิชาการของผม ผมคิดว่าใน short-term อาจบอกไม่ได้ว่าสัมพันธ์กัน แต่ใน long term ค่อนข้างมองไปในแนวคิดที่สอดคล้องกันว่าบริษัทที่มี ESG Rating ดี น่าจะมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี จากแรงกดดันจากนักลงทุนสถาบัน
แต่วันนี้ผมพอหาคำตอบสวนทางได้ จากกรณีที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มิย 2567 ของตลาดหุ้นไทยกับบริษัท Energy Absolute (EA) หรือบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ ซึ่งก่อนเกิดเหตุ มหากาพย์ EA (ที่ผู้บริหารโดนกล่าวโทษว่าทุจริตจากการจัดซื้อจัดจ้าง) บริษัทได้ 5 ดาวรายงานด้าน CG / และ Double AA SET ESG Rating
แต่เมื่อปลายเดือน มิย มีข่าวผู้บริหารโดนกล่าวโทษว่าทุจริตจากการจัดซื้อจัดจ้าง โดยเมื่อวันที่ 15 กค กลต. ได้ถอน EA ออกจาก SET ESG Rating / รวมทั้ง TRIS ลด rating หุ้นกู้ของ EA ลงเหลือ BB+ ซึ่งไม่ใช่ rating สำหรับการลงทุน (investment grade) ทันทีที่เกิดเหตุการณ์นี้ ราคาหุ้น EA ลดลงอย่างมากตามภาพ เส้นสีเหลือง (หัวกราฟปลักลงอย่างมาก)

บทสรุปก็คือ การเข้าร่วม ESG Rating อาจต้องใช้เวลายาวนานถึงจะสร้างผลประโยชน์ในเชิงราคาและมูลค่าตลาดของบริษัท/แต่เมื่อวันนึงเคยอยู่ใน rating ที่ดี แต่อนาคต Rating ตก หรือถูกไถ่ถอน แบบนี้จะเห็นผลในเชิงลบชัดเจนกว่าผลประโยชน์ในเชิงบวก
ในมุม risk ความเสี่ยงในเรื่องชื่อเสียงหรือ Reputation Risk มันน่ากลัวแบบนี้ นี่เอง